เพิ่ม Productivity ด้วยการใช้มอเตอร์เกียร์แบบ Modular Design เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งาน มอเตอร์เกียร์โดยทั่วไปมักถูกออกแบบมาให้ใช้ชิ้นส่วนเฉพาะ ไม่สามารถสับเปลี่ยนกันได้ ส่งผลให้ผู้ใช้งานประสบปัญหาดังต่อไปนี้ 1. มอเตอร์ที่ใช้เป็นมอเตอร์ที่ออกแบบเป็นพิเศษ มีขนาดหน้าแปลนหรือขนาดเพลาพิเศษ บางกรณีอาจกัดเฟืองบนเพลามอเตอร์ จึงไม่สามารถนำมอเตอร์ยี่ห้ออื่นจากท้องตลาดมาใช้แทนได้ เมื่อมอเตอร์ไหม้หรือเสียหาย จึงต้องซื้ออะไหล่จากผู้ขายรายเดิมในราคาแพง ในบางกรณีอาจต้องรออะไหล่เป็นเวลานานหลายเดือน 2. ไม่สามารถดัดแปลงมอเตอร์เกียร์ที่ใช้อยู่เดิมให้เป็นมอเตอร์เกียร์ที่มีฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น เปลี่ยนแปลงมอเตอร์เกียร์ปรับรอบ เปลี่ยนเป็นมอเตอร์เกียร์แบบเดิน-หยุดด้วยชุดคลัทช์-เบรค เพิ่มชุดลูกปืนทางเดียว (Backstop) สำหรับสายพานลำเลียง เพิ่มชุดจำกัดแรงบิดในกรณีที่มีการติดขัดบ่อยๆ เพื่อป้องกันเครื่องจักรเสียหาย เพิ่มชุด Fluid Coupling เพื่อขับเครื่องจักรที่ออกตัวยาก 3.
คุณต้องหาจำนวนผู้ได้รับการจ้างงานในประเทศนั้นๆ เพื่อคำนวณผลิตภาพแรงงานรายบุคคล ในสหรัฐอเมริกานั้น คุณสามารถหาสูตรค่าสถิติ (Key Statistics) บนเว็บไซต์ของกระทรวงแรงงานแห่งสหรัฐ (Bureau of Labor Statistics, BLS) [8] ส่วนประเทศอื่นนั้น คุณต้องค้นหาบนอินเทอร์เน็ตเอาเอง คำนวนค่าผลิตภาพแรงงานรายบุคคล. เพียงแค่หารค่าจีดีพีด้วยจำนวนผู้ได้รับการจ้างงานทั้งหมด ก็จะได้ค่าผลิตภาพแรงงานรายบุคคลในประเทศนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าค่าจีดีพีของประเทศหนึ่งคือ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและจำนวนผู้ได้รับการจ้างงานคือ 100 ล้านคน ดังนั้น ค่าผลิตภาพแรงงานก็จะได้ 1, 000, 000, 000 หารด้วย 100, 000, 000 หรือเท่ากับผลิตภัณฑ์ 1, 000 หน่วยต่อ 1 คน 4 นำค่าผลิตภาพแรงงานที่คำนวณแล้วไปใช้. ค่าผลิตภาพแรงงานนั้นสามารถใช้เพื่อคาดคะเนว่าการขยายตัวของจำนวนประชากรหรือการจ้างงานนั้นส่งผลต่อค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ได้อย่างไร ในการวิเคราะห์นั้น ให้คูณค่าผลิตภาพแรงงานด้วยจำนวนแรงงานที่เพิ่มขึ้นเพื่อคาดการณ์ว่าค่าจีดีพีในประเทศจะได้รับผลกระทบจากแรงงานใหม่มากน้อยแค่ไหน เคล็ดลับ วิธีที่ทั่วไปที่สุดในการเพิ่มผลิตภาพแรงงานของประเทศหรือชาตินั้นคือการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและการพัฒนาศักยภาพแรงงาน เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้ มีการเข้าถึงหน้านี้ 39, 224 ครั้ง บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
(บ. ป. ท., ม. ) คำไข เคล็ดลับ-วิธีการ / การเพิ่มผลผลิต บทความนี้เกิดจากการเขียนและส่งขึ้นมาสู่ระบบแบบอัตโนมัติ สมาคมฯไม่รับผิดชอบต่อบทความหรือข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเมิดสิทธิใดๆ กรุณาแจ้งมาที่ เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกจากระบบในทันที ตอนที่ 1: การเพิ่มผลผลิต Productivity
เชื่อว่า Developer (แทบ)ทุกคนคงเคยเจอสถานการณ์ที่รู้สึกว่างานยุ่งทั้งวัน แต่สุดท้ายเหมือนไม่ได้ชิ้นอะไรออกมาเลยในวันนั้น ในโลกของการทำงานจริงนั้น การทำงานให้สำเร็จในเวลาที่กำหนดถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้นมาเรียนรู้ 7 วิธีเพิ่ม Productivity สำหรับ Developer กันดีกว่า 1. ลดสิ่งที่จะมารบกวนการทำงาน เรื่องนี้สามารถเห็นได้ชัดว่า มันมีความสำคัญอย่างมาก อย่าเข้า Social Media หรือข่าวสารต่าง ๆ หากคุณคิดที่จะทำงาน เพราะสิ่งเหล่านั้นมันทำให้คุณ "เสียเวลา" หากมีสิ่งที่รบกวนการทำงานของคุณอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่า คุณจะเสียสมาธิและทำให้ Productivity ของคุณด้อยลง นอกจากนี้อย่าลืมปิดพวก Notification ต่าง ๆ เราทุกคนรู้อยู่แล้วว่า ไม่ควรที่จะดู Notification เหล่านี้บ่อย ๆ แม้มันก็ดึงดูดให้คุณดูพวกมันก็ตาม เพียงปิด Notification ทั้งหมด ก็จะไม่มีอะไรมารบกวนคุณ ทำให้สามารถ Focus ที่งานได้เต็มที่และเกิด Productivity ที่ดีขึ้น 2. อย่าทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน อย่าเพิ่งไป Review Code ของ Developer คนอื่น หากคุณกำลังเขียน Code ของตัวเองอยู่ พยายามทำอะไรเป็นอย่าง ๆ ไป(ถ้าสามารถทำได้) เมื่อคุณทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่าคุณจะต้องสลับไปทำงานต่าง ๆ บ่อย ๆ การทำแบบนี้จะทำให้เสียเวลามากกว่าที่จะทำให้เสร็จเป็นอย่าง ๆ ไป หากคุณมั่นใจว่าการทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน จะทำให้คุณทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม นั่นคือคุณคิดผิด การทำแบบนั้น จะทำให้คุณต้องเสียเวลาย้อนกลับไปดูว่าทำงานค้างไว้ที่ตรงไหน แถมต้องปะติดปะต่องานนั้นใหม่อีกครั้ง 3.
ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกาย และประสิทธิภาพการทำงานเป็นอย่างมาก ซึ่งการออกกำลังกายที่มีผลดีที่สุดต่อร่างกายเป็นดังนี้ 20+ นาที ของการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ การออกกำลังกายแบบใช้กล้ามเนื้อ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ถึงแม้ว่าเราจะสามารถทำงานได้จากบ้าน ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องทำงานตลอดเวลา การแบ่งเวลาพักมาออกกำลังกาย จะช่วยให้คุณสามารถกลับไปทำงานต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 9. นอนและพักผ่อนให้เพียงพอ แน่นอนว่าการนอนพักผ่อนถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นเราจึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ โดยกำหนดเวลาตัวเองที่จะหยุดทำงานแล้วเข้านอน และควรนอนอย่างน้อย 6 ชม. และเรียนรู้การนอนระยะสั้นระหว่างวัน หรือ nap เพื่อทำให้ร่างการสามารถทำงานต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็สามารถเป็นสิ่งที่ดีต่อการส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานเช่นกัน 10.