ด้วย โดยได้รับแจ้งจากทางจังหวัดว่าวัคซีนถึงแล้ว เช่น สมุทรปราการ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี เป็นต้น ซึ่งแต่ละแห่งที่ได้รับวัคซีนได้ทยอยฉีดแล้ว เช่น โรงพยาบาลชลบุรี, โรงพยาบาลพุทธโสธร จ. ฉะเชิงเทรา, สถาบันบำราศนราดูร, โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ. จันทบุรี เป็นต้น และจะเริ่มทยอยฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ฯ ตามความพร้อมของสถานบริการต่างๆ ต่อไป
บรรยากาศวันแรกของการฉีดบูสเตอร์เข็มที่ 3 ไฟเซอร์ ซึ่งทางจังหวัดพิษณุโลกได้รับการจัดสรรมาจำนวน 6, 960 โดส ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งผ่านการคัดสรรคณะกรรมการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ของจังหวัดพิษณุโลก วันที่โรงพยาบาลพุทธชินราช มีบุคลากรทางการแพทย์มาฉีด 1, 000 คน เน้นความโปร่งใสในการรับวัคซีนของบุคลากรทางการแพทย์ วันที่ 11 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช อ. เมือง จ.
ค. และ วันที่ 13 ส. นี้
อุดม กล่าวถึงภาพรวมการระบาดของโควิดล่าสุดว่า ในช่วง 2 เดือน สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ระบาดไปใน 96 ประเทศ ภาพรวมประเทศไทย ระบาดแล้ว 30% ใน กทม. พบ 50% จึงคาดการณ์ว่าทั้งโลกจะเป็นสายพันธุ์เดลตาเกือบทั้งหมด สำหรับเชื้อตัวนี้ไม่ได้รุนแรงกว่าสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) แต่ทำให้ผู้ป่วยแสดงอาการเร็วขึ้นกว่าสายพันธุ์อัลฟา ทำให้ความต้องการเตียงเพิ่มขึ้นมาก ถ้าปล่อยให้เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ระบบสาธารณสุขจะอยู่ไม่ได้ ทั้งนี้ หากเทียบช่วงก่อนโควิด 19 เตียงไอซียูใน กทม. มีอยู่ 230 เตียง แต่ปัจจุบันเพิ่มไปแล้วเป็น 460 เตียง แต่หมอพยาบาลเท่าเดิม ต้องระดมแผนกอื่นมาช่วย ตอนนี้ขวัญกำลังใจของบุคลากรทางการแพทย์ย่ำแย่ มีผู้เสียชีวิตวันละ 50 - 60 คน ติดเชื้อวันละ 5 - 6 พัน ดังนั้นจึงต้องช่วยกันฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเจ็บตาย เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยรุนแรงที่ต้องเข้าโรงพยาบาลไม่ให้ระบบกำลังสาธารณสุขทำงานงานหนัก เพราะตอนนี้ทุกคนไม่ไหวแล้วจริง ๆ ศ. อุดม กล่าวเสริมว่า สำหรับสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) วัคซีนไฟเซอร์ และแอสตราซิเนก้า ยังสามารถป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงได้มากกว่า 96-92% แต่สำหรับซิโนแวคยังข้อมูลน้อย แต่สามารถป้องกันการตายได้ ตอนนี้วัตถุประสงค์การฉีดวัคซีนแม้ป้องกันไม่ได้ 100% แต่ป้องกันเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้เกิน 90% เพื่อให้เตียงมีมากพอ และผ่อนแรงบุคลากรทางการแพทย์ลงบ้าง อ่านข้อมูลและติดตามสถานการณ์ COVID-19 ได้ที่นี่ ขอบคุณข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณสุข เรื่องที่คุณอาจสนใจ